ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว สินค้าหรูหรา เริ่มคึกคักอีกครั้งไม่เว้นสองล้อในฝัน BMW ข่าวดีสำหรับคอ บีเอ็มดับเบิลยู เมื่อผู้จำหน่ายจักรยานยนต์ BMW เตรียมเปิดตัวรถ 4 รุ่นในบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายน พ.ศ. 2553
ซึ่งมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วย (1) BMW S 1000 RR ซึ่งเป็นซูเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู, (2) BMW F 800 R “The Naked Bike”, (3) BMW R 1200 GS และ GS Adventure และ (4) BMW R 1200 RT
S 1000 RR- พัฒนาขึ้นบนคอนเซ็ปต์มอเตอร์ไซค์แบบซูเปอร์ไบค์ ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบบนตัวถังเฟรมอะลูมิเนียม มุ่งเน้นที่เสถียรภาพการขับ ความปราดเปรียว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์แข่ง S 1000 RR ได้รับการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ เช่น Race ABS และระบบรักษาเสถียรภาพ DTC Dynamic Traction Control ที่สามารถปรับเลือกโหมดการขับให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานได้ เช่น โหมด Rain สำหรับถนนเปียก โหมด Sport สำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต โหมด Race สำหรับการแข่งขัน และ โหมด Slick สำหรับใช้ในสนามแข่งและใส่ยางแบบสลิค S 1000 RR ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 1,000 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบวาล์วพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม 193 แรงม้าที่ 13,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตร ที่ 9,750 รอบ และมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรภายใน 2.9 วินาที
BMW F 800 R - มอเตอร์ไซค์ สปอร์ตแบบ Naked Bike เน้นเรื่องปราดเปรียวว่องไว บังคับควมคุมง่าย F 800 R ได้สร้างชื่อในการแข่งขันการขับมอเตอร์ไซค์แบบผาดโผนโดยการเป็นรถคู่ใจของแชมป์โลกการขับมอเตอร์ไซค์ผาดโผน 4 สมัย คริส ไฟเฟอร์ ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 2 สูบ 800 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ 88 แรงม้าที่ 8,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 86 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ มีจุดเด่นในเรื่องของการผลิตกำลังขับเคลื่อนในช่วงรอบที่กว้างโดยเฉพาะระหว่างรอบ 5,000-8,000 รอบ ซึ่งทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งน้ำหนักตัวถังเพียง 199 กิโลกรัม (รวมน้ำมัน) ทำให้มันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความปราดเปรียวสูง
BMW R 1200 - มอเตอร์ไซค์ในเซ็กเมนท์ เอ็นดูโร่ (Enduro) เครื่องสูบนอนแบบบ๊อกเซอร์ 2 สูบ 1,170 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแบบ DOHC ใหม่ เพิ่มกำลังอีก 5% เป็น 110 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ และแรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ อีกทั้งยังเพิ่มรอบการทำงานสูงสุดเป็น 8,500 รอบ (จากเดิม 8,000 รอบ) ซึ่งทำให้มันมีสมรรถนะและอัตราเร่งที่ดี R 1200 GS มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.7 วินาทีและ 3.95 วินาที สำหรับ R 1200 GS Adventure
BMW R 1200 RT สุดยอดสองล้อทัวริ่ง เน้นการขับขี่ทางไกล ใช้เครื่องสูบนอนบ๊อกเซอร์แบบ 2 สูบ 1,170 ซีซี 16 วาล์ว DOHC ให้กำลัง 110 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ และแรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด สามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.8 วินาที และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไกล BMW R 1200 RT มาพร้อมกับช่วงล่างแบบ ESA II (Electronic Suspension Adjustment) ซึ่งสามารถปรับความนุ่มนวลให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการบรรทุกได้ นอกจากนั้นยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น วิทยุ ซีดี และ iPod ได้อีกด้วย
เพิ่มเติม http://www.komchadluek.net
ซึ่งมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วย (1) BMW S 1000 RR ซึ่งเป็นซูเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู, (2) BMW F 800 R “The Naked Bike”, (3) BMW R 1200 GS และ GS Adventure และ (4) BMW R 1200 RT
S 1000 RR- พัฒนาขึ้นบนคอนเซ็ปต์มอเตอร์ไซค์แบบซูเปอร์ไบค์ ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบบนตัวถังเฟรมอะลูมิเนียม มุ่งเน้นที่เสถียรภาพการขับ ความปราดเปรียว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์แข่ง S 1000 RR ได้รับการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ เช่น Race ABS และระบบรักษาเสถียรภาพ DTC Dynamic Traction Control ที่สามารถปรับเลือกโหมดการขับให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานได้ เช่น โหมด Rain สำหรับถนนเปียก โหมด Sport สำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต โหมด Race สำหรับการแข่งขัน และ โหมด Slick สำหรับใช้ในสนามแข่งและใส่ยางแบบสลิค S 1000 RR ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 1,000 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบวาล์วพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม 193 แรงม้าที่ 13,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตร ที่ 9,750 รอบ และมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรภายใน 2.9 วินาที
BMW F 800 R - มอเตอร์ไซค์ สปอร์ตแบบ Naked Bike เน้นเรื่องปราดเปรียวว่องไว บังคับควมคุมง่าย F 800 R ได้สร้างชื่อในการแข่งขันการขับมอเตอร์ไซค์แบบผาดโผนโดยการเป็นรถคู่ใจของแชมป์โลกการขับมอเตอร์ไซค์ผาดโผน 4 สมัย คริส ไฟเฟอร์ ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 2 สูบ 800 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ 88 แรงม้าที่ 8,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 86 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ มีจุดเด่นในเรื่องของการผลิตกำลังขับเคลื่อนในช่วงรอบที่กว้างโดยเฉพาะระหว่างรอบ 5,000-8,000 รอบ ซึ่งทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งน้ำหนักตัวถังเพียง 199 กิโลกรัม (รวมน้ำมัน) ทำให้มันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความปราดเปรียวสูง
BMW R 1200 - มอเตอร์ไซค์ในเซ็กเมนท์ เอ็นดูโร่ (Enduro) เครื่องสูบนอนแบบบ๊อกเซอร์ 2 สูบ 1,170 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแบบ DOHC ใหม่ เพิ่มกำลังอีก 5% เป็น 110 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ และแรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ อีกทั้งยังเพิ่มรอบการทำงานสูงสุดเป็น 8,500 รอบ (จากเดิม 8,000 รอบ) ซึ่งทำให้มันมีสมรรถนะและอัตราเร่งที่ดี R 1200 GS มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.7 วินาทีและ 3.95 วินาที สำหรับ R 1200 GS Adventure
BMW R 1200 RT สุดยอดสองล้อทัวริ่ง เน้นการขับขี่ทางไกล ใช้เครื่องสูบนอนบ๊อกเซอร์แบบ 2 สูบ 1,170 ซีซี 16 วาล์ว DOHC ให้กำลัง 110 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ และแรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด สามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.8 วินาที และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไกล BMW R 1200 RT มาพร้อมกับช่วงล่างแบบ ESA II (Electronic Suspension Adjustment) ซึ่งสามารถปรับความนุ่มนวลให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการบรรทุกได้ นอกจากนั้นยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น วิทยุ ซีดี และ iPod ได้อีกด้วย
เพิ่มเติม http://www.komchadluek.net
0 comments:
Post a Comment