รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี สุดเซ็งกับผลงานของตัวเองที่เกือบจะเก็บ 10 แต้มจากอันดับที่ 6 ได้สำเร็จในศึกอินเดียนาโพลิส จีพี ทว่าต้องออกจากการแข่งขันในช่วง 2 รอบสุดท้ายเนื่องจากเครื่องพัง
"เจ้าฟีม" ที่ออกตัวจากกริดที่ 9 ในแถวที่ 3 ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งบิดเกาะกลุ่มท็อป 5 ได้แบบมีลุ้น ก่อนที่จะแซงเฮคตอร์ บาร์เบรา นัดบิดสแปนิช ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ได้สำเร็จ ทว่ากลับต้องออกจาการแข่งขันทั้งที่เหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย
ซึ่งนักบิดวัย 21 ปีจากทีมไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค เผยด้วยความผิดหวังว่า "ผมออกสตาร์ทได้ไม่เลว ด้วยการขึ้นไปเกาะกลุ่ม 7 อันดับแรก จากนั้นอุบัติเหตุของจูเลส คลูเซล ชิ้นส่วนท่อไอเสียของเขากระเด็นมาถูกตัวผม แต่ยังโชคดีที่รอดมาได้ แต่ผมก็โชคดีไม่ตลอด เมื่อไปสะกิดกับรถของอเล็กซ์ เดอบอง"
"มันทำให้ท่อไอเสียของผมมีปัญหา ขณะเดียวกันผมไม่สามารถใช้คาบูเรเตอร์ได้อย่างเต็มกำลัง จนกระบอกสูบพังไปอีก 1 ตัว นี่คือความน่าเสียดายที่สุด เพราะมันกำลังจะเป็นวันที่ดีที่สุดของผม แต่ต้องมาจบลงเมื่อเหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย" หนุ่มฟีมร่ายยาว
อย่างไรก็ดี "เจ้าลิงน้อย" ยังมองโลกในแง่ดีว่า "เราแสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทาง สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนของผมที่ต้องเรียนรู้ หน้าที่ต่อไปคือการมองไปที่การแข่งขันสนามหน้าที่ซานมาริโน(5 ก.ย.นี้) ผมหวังว่าจังหวะและโอกาสน่าจะเข้าทางเราบ้าง"
สำหรับเจ้าฟีมเคยจบการแข่งขันดีที่สุดในชีวิตในอันดับที่ 5 ที่เลอ มังส์ ในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่จะประสบปัญหารถคู่ใจไม่พร้อมสมบูรณ์มาตลอดในช่วงหลัง ส่งผลให้ยังมีแต้มอยู่ที่ 43 คะแนน รั้งอันดับ 14 ในตารางรุ่น 250 ซีซีเช่นเดิม
ที่มา http://www.manager.co.th/
"เจ้าฟีม" ที่ออกตัวจากกริดที่ 9 ในแถวที่ 3 ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งบิดเกาะกลุ่มท็อป 5 ได้แบบมีลุ้น ก่อนที่จะแซงเฮคตอร์ บาร์เบรา นัดบิดสแปนิช ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ได้สำเร็จ ทว่ากลับต้องออกจาการแข่งขันทั้งที่เหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย
ซึ่งนักบิดวัย 21 ปีจากทีมไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค เผยด้วยความผิดหวังว่า "ผมออกสตาร์ทได้ไม่เลว ด้วยการขึ้นไปเกาะกลุ่ม 7 อันดับแรก จากนั้นอุบัติเหตุของจูเลส คลูเซล ชิ้นส่วนท่อไอเสียของเขากระเด็นมาถูกตัวผม แต่ยังโชคดีที่รอดมาได้ แต่ผมก็โชคดีไม่ตลอด เมื่อไปสะกิดกับรถของอเล็กซ์ เดอบอง"
"มันทำให้ท่อไอเสียของผมมีปัญหา ขณะเดียวกันผมไม่สามารถใช้คาบูเรเตอร์ได้อย่างเต็มกำลัง จนกระบอกสูบพังไปอีก 1 ตัว นี่คือความน่าเสียดายที่สุด เพราะมันกำลังจะเป็นวันที่ดีที่สุดของผม แต่ต้องมาจบลงเมื่อเหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย" หนุ่มฟีมร่ายยาว
อย่างไรก็ดี "เจ้าลิงน้อย" ยังมองโลกในแง่ดีว่า "เราแสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทาง สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนของผมที่ต้องเรียนรู้ หน้าที่ต่อไปคือการมองไปที่การแข่งขันสนามหน้าที่ซานมาริโน(5 ก.ย.นี้) ผมหวังว่าจังหวะและโอกาสน่าจะเข้าทางเราบ้าง"
สำหรับเจ้าฟีมเคยจบการแข่งขันดีที่สุดในชีวิตในอันดับที่ 5 ที่เลอ มังส์ ในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่จะประสบปัญหารถคู่ใจไม่พร้อมสมบูรณ์มาตลอดในช่วงหลัง ส่งผลให้ยังมีแต้มอยู่ที่ 43 คะแนน รั้งอันดับ 14 ในตารางรุ่น 250 ซีซีเช่นเดิม
ที่มา http://www.manager.co.th/
0 comments:
Post a Comment