“เดอะ ด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี ยอดนักบิดรุ่นโมโตจีพี และ “ฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ขวัญใจชาวไทยในรุ่น 250 ซีซี ขอแก้ตัวในสนามที่ซานมาริโน วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนี้ ทรูวิชันส์ ยิงสดที่ช่อง 65 (สตาร์ สปอร์ตส) ตั้งแต่เวลา 16.00 น.
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก สนามที่ 13 ของปี รายการ “ซานมาริโน กรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนี้ ที่มิซาโน แทรค ในเมืองซานมาริโน บรรดานักบิดจะต้องซิ่งถึง 28 รอบสำหรับรุ่นโมโตจีพี ขณะที่รุ่น 250 ซีซี จะต้องประชันความเร็วกัน 26 รอบ
โดยในสนามที่แล้ว รุ่นโมโตจีพี ที่อินเดียนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า วาเลนติโน รอสซี แชมป์โลกชาวอิตาเลียนจากทีมเฟียต-ยามาฮ่า แข่งไม่จบเนื่องจากรถคู่ใจมีปัญหา ทำให้สนามนี้ “เดอะ ด็อกเตอร์” มุ่งมั่นล้างอายด้วยการคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะที่มิซาโน่เปรียบเสมือนสนามหลังบ้านของเขานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม รอสซี ต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งอย่าง ฆอร์เก้ ลอเรนโซ่ นักบิดชาวสเปนเพื่อนร่วมทีมเฟียต-ยามาฮ่า ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในสนามที่แล้ว นอกจากนี้ยังมี ดานี เปโดรซา นักซิ่งเลือดกระทิงดุอีกรายของทีมฮอนด้า ที่ฟอร์มดีวันดีคืน รวมทั้งอดีตแชมป์โลกเมื่อ 3 ปีก่อน นิคกี เฮย์เดน นักบิดชาวอเมริกัน ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับคะแนนสะสมล่าสุดหลังผ่าน 12 สนาม ในรุ่นโมโตจีพี ปรากฏว่า อันดับ 1 ยังเป็น วาเลนติโน รอสซี มี 212 คะแนน อันดับ 2 ฆอร์เก ลอเรนโซ มี 187 คะแนน อันดับ 3 เคเซีย์ สโตเนอร์ อดีตแชมป์โลกเมื่อ 2 ปีก่อนชาวออสเตรเลีย มี 150 คะแนน
ทางด้าน รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งหนึ่งเดียวของไทย ซึ่งสนามที่แล้ว “ฟีม” ต้องออกจากการแข่งขัน ทั้งๆ ที่เหลืออีกเพียง 2 รอบ พลาดโอกาสเก็บ 10 แต้มอย่างน่าเสียดาย ในสนามนี้ฟีมและทีมงานของฮอนด้า จึงหวังอย่างยิ่งว่าผลงานจะดีขึ้น เพื่อทำคะแนนสะสมให้เข้าไปอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกในรุ่น 250 ซีซี ให้ได้
โดยล่าสุด หลังผ่านไป 11 สนามสำหรับรุ่น 250 ซีซี รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ มีคะแนนสะสม 43 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 14 ส่วนอันดับ 1 ยังเป็น ฮิโรชิ อาโอยามา นักบิดชาวญี่ปุ่น มี 192 คะแนน ตามมาด้วย อัลบาโร เบาติสตา นักบิดชาวสเปน มี 176 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มาร์โก ซิมอนเซลลี นักบิดชาวอิตาลี มี 165 คะแนน
งานนี้ แฟนนักบิดติดตามเชียร์ “น้องฟีม” และชมการถ่ายทอดสดมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก รายการ “ซานมารีโน่ กรังด์ปรีซ์” ได้ในวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนี้ เวลา 16.00-20.00 น. ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 65 (สตาร์สปอร์ตส)
ที่มา http://www.manager.co.th/
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก สนามที่ 13 ของปี รายการ “ซานมาริโน กรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนี้ ที่มิซาโน แทรค ในเมืองซานมาริโน บรรดานักบิดจะต้องซิ่งถึง 28 รอบสำหรับรุ่นโมโตจีพี ขณะที่รุ่น 250 ซีซี จะต้องประชันความเร็วกัน 26 รอบ
โดยในสนามที่แล้ว รุ่นโมโตจีพี ที่อินเดียนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า วาเลนติโน รอสซี แชมป์โลกชาวอิตาเลียนจากทีมเฟียต-ยามาฮ่า แข่งไม่จบเนื่องจากรถคู่ใจมีปัญหา ทำให้สนามนี้ “เดอะ ด็อกเตอร์” มุ่งมั่นล้างอายด้วยการคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะที่มิซาโน่เปรียบเสมือนสนามหลังบ้านของเขานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม รอสซี ต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งอย่าง ฆอร์เก้ ลอเรนโซ่ นักบิดชาวสเปนเพื่อนร่วมทีมเฟียต-ยามาฮ่า ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในสนามที่แล้ว นอกจากนี้ยังมี ดานี เปโดรซา นักซิ่งเลือดกระทิงดุอีกรายของทีมฮอนด้า ที่ฟอร์มดีวันดีคืน รวมทั้งอดีตแชมป์โลกเมื่อ 3 ปีก่อน นิคกี เฮย์เดน นักบิดชาวอเมริกัน ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับคะแนนสะสมล่าสุดหลังผ่าน 12 สนาม ในรุ่นโมโตจีพี ปรากฏว่า อันดับ 1 ยังเป็น วาเลนติโน รอสซี มี 212 คะแนน อันดับ 2 ฆอร์เก ลอเรนโซ มี 187 คะแนน อันดับ 3 เคเซีย์ สโตเนอร์ อดีตแชมป์โลกเมื่อ 2 ปีก่อนชาวออสเตรเลีย มี 150 คะแนน
ทางด้าน รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งหนึ่งเดียวของไทย ซึ่งสนามที่แล้ว “ฟีม” ต้องออกจากการแข่งขัน ทั้งๆ ที่เหลืออีกเพียง 2 รอบ พลาดโอกาสเก็บ 10 แต้มอย่างน่าเสียดาย ในสนามนี้ฟีมและทีมงานของฮอนด้า จึงหวังอย่างยิ่งว่าผลงานจะดีขึ้น เพื่อทำคะแนนสะสมให้เข้าไปอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกในรุ่น 250 ซีซี ให้ได้
โดยล่าสุด หลังผ่านไป 11 สนามสำหรับรุ่น 250 ซีซี รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ มีคะแนนสะสม 43 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 14 ส่วนอันดับ 1 ยังเป็น ฮิโรชิ อาโอยามา นักบิดชาวญี่ปุ่น มี 192 คะแนน ตามมาด้วย อัลบาโร เบาติสตา นักบิดชาวสเปน มี 176 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มาร์โก ซิมอนเซลลี นักบิดชาวอิตาลี มี 165 คะแนน
งานนี้ แฟนนักบิดติดตามเชียร์ “น้องฟีม” และชมการถ่ายทอดสดมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก รายการ “ซานมารีโน่ กรังด์ปรีซ์” ได้ในวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนี้ เวลา 16.00-20.00 น. ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 65 (สตาร์สปอร์ตส)
ที่มา http://www.manager.co.th/
0 comments:
Post a Comment